รู้จัก Singleton Hypothesis เมื่อซูเปอร์คอมพิวเตอร์ จะตัดสินใจแทนเราหมด
เรื่องราวแบบนี้เป็นเรื่องของอนาคตอันหดหู่ เรื่องที่มนุษยชาติต้องต่อสู้กับ ‘ซูเปอร์คอมพิวเตอร์’ อันชั่วร้ายนี้ และนี่ก็ธีมคลาสสิคของหนังไซไฟระดับคลาสสิกตั้งแต่ Terminator ไปจนถึง Matrix
สถานการณ์แบบนี้มันมีศัพท์เทคนิคเรียกครับ เขาเรียกว่า Singleton Hypothesis ซึ่งคนบัญญัติคือนักคิดแนวอนาคตวิทยาชื่อดังอย่าง นิค บอสตรอม (Nick Bostrom) โดยความคิดนี้คือมันเชื่อว่าพัฒนาการของอารยธรรมใดๆ มันจะไปสู่จุดสูงสุดที่จะมี ‘สิ่งทรงปัญญาเหลือล้น’ และทำการตัดสินใจให้กับสมาชิกสังคม ซึ่ง ณ จุดนั้นจะไม่เหลือ ‘เสรีภาพ’ อีก เพราะคุณไม่ต้องตัดสินใจอะไรเอง ‘สิ่งทรงปัญญาเหลือล้น’ ตัดสินให้คุณหมด
Bostrom บอกว่า พวกหนังไซไฟจะทำให้เรา ‘มอง’ ภาวะที่ ‘สิ่งทรงปัญญาเหลือล้น’ มาตัดสินใจแทนเราในแง่ร้าย แต่ความจริงมันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น คือเราไม่คิดเลยว่าทุกวันนี้เราไม่สามารถ ‘ตัดสินใจอย่างดีที่สุด’ เองได้ บางทีมันมีสิ่งที่ ‘เห็นภาพรวม’ กว่าเราและตัดสินใจได้ดีกว่าเราอยู่ตลอด
ซึ่งตรงนี้ เราก็ไม่ได้พูดถึงแค่พวก ‘อัลกอริธึ่ม’ บนอินเทอร์เน็ตที่มันกำหนดทุกวันอยู่แล้วว่าเราจะได้ข่าวอะไรไม่ได้ข่าวอะไร เพราะจริงๆ แม้แต่ในทางการเมือง คนมันก็สร้าง AI เพื่อ ‘ปกครองประเทศ’ กันมาแล้ว และจาก ผลวิจัย AI พวกนี้ก็น่าจะตัดสินใจได้ดีกว่า ‘นักการเมือง’ อีกด้วย
แน่นอน อะไรพวกนี้ฟังดู มากไปสำหรับมนุษย์ปัจจุบันที่เชื่อใน ‘เสรีภาพ’ แต่เอาจริงๆ ในประวัติศาสตร์เป็นแสนปีของมนุษยชาติ ที่เราเรียกว่า ‘เสรีภาพ’ มันเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่มาก อายุไม่กี่ร้อยปี คนในอดีต มันไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีเสรีภาพ มันโดนกำหนดทั้งนั้น ไม่ว่าจะจากครอบครัว จากสังคม จากรัฐ หรือกระทั่งจากเทพเจ้า
พูดง่ายๆ คนในอดีตมันก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองต้องมี ‘เสรีภาพ’ มันก็อยู่กันได้ และนี่คือหลักฐานเลยว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์มันดำรงอยู่ได้โดยไม่ต้องมี ‘เสรีภาพ’
แน่นอน การพูดอะไรแบบนี้ฟังดูอนุรักษนิยมจนน่ากลัวและหลุดไปเป็นฟาสซิสต์ด้วยซ้ำ แต่ถ้านั่นยังโหดไม่พอ ฝ่ายที่สนับสนุนการ ‘ยุติเสรีภาพ’ โดยให้ ‘สิ่งทรงปัญญาเหลือล้น’ ปกครอง ก็จะบอกอีกว่า การทำแบบนี้มันอาจจะยุติ ความขัดแย้งและสงครามต่างๆ ของมนุษยชาติได้
.
ที่มา : brandthink.me/content/singleton-hypothesis